การแก้ไขความหนาของผนังลิฟท์กรณีตึกถล่มในกรุงเทพฯ
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (SAO) ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจลดความหนาของผนังลิฟท์ในอาคารสูง 30 ชั้น ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุของการพังทลายระหว่างเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยได้ระบุว่าการปรับปรุงได้ดำเนินการตามมาตรฐานการก่อสร้างที่เหมาะสมในด้านสถาปัตกรรมภายในอาคาร
ภาพรวมโครงการและผู้รับผิดชอบ
โครงการนี้ได้มอบหมายให้ ITD-CREC, การร่วมทุนระหว่างบริษัท พัฒนาอิตาเลียน-จีน (Italian-Thai Development Plc) ที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และบริษัท รถไฟจีนหมายเลข 10 ประเทศไทย การกำกับโครงการได้รับมอบหมายให้ PKW joint venture ในขณะที่ Forum Architect Co และ Meinhardt (Thailand) เป็นผู้รับผิดชอบในการออกแบบอาคาร
ปัญหาและการปรับปรุง
ผู้รับเหมาก่อสร้างพบว่าขนาดผนังเดิมร่วมกับวัสดุตกแต่งเพิ่มเติมจะทำให้ช่องทางเดินแคบลง อาจละเมิดกฎหมายกระทรวงมหาดไทยและพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ด้วยเหตุนี้จึงได้ปรึกษากับผู้ดูแลโครงการและนักออกแบบ ซึ่งได้แนะนำให้ลดความหนาของผนังลิฟท์ใกล้ทางเดินจาก 30 เซนติเมตรเป็น 25 เซนติเมตร พร้อมกับเพิ่มโครงสร้างเหล็กเสริม
การปรับเปลี่ยนนี้ได้รับการยืนยันโดยทั้งผู้ดูแลและนักออกแบบ และได้ทำการส่งแบบแปลนที่ได้ปรับปรุงแล้วกลับไปยังผู้รับเหมา นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจากผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
มุมมองจากองค์กรรัฐ
นายต๊ะวี สดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เสนอว่าการตัดสินใจลดความหนาของผนังอาจเป็นสาเหตุของการพังทลายของอาคาร โดยเน้นว่าผนังลิฟท์ที่หนาน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับอาคารทำนองเดียวกันทั่วไปที่มีความหนาประมาณ 60 เซนติเมตร ด้าน SAO มีความหนาเพียง 25 เซนติเมตรเท่านั้น รัฐมนตรียังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าทีมวิศวกรจะดำเนินการสำรวจอย่างละเอียดเพื่อค้นหาว่าความหนาของผนังมีส่วนในเหตุการณ์นี้หรือไม่ และจะมีการตรวจสอบแบบแปลนเดิมของอาคารในระหว่างการสืบสวน