News Elementor

RECENT NEWS

เชียงใหม่เผชิญปัญมลพิษทางอากาศรุนแรงจากไฟป่า

เชียงใหม่กำลังประสบปัญหามลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง เนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามไปยังหลายเขต โดยมีจุดความร้อนมากกว่า 150 จุดถูกตรวจพบ

ไฟป่ายังคงลุกไหม้อยู่ในพื้นที่ภูเขาในจังหวัดทางเหนือเมื่อวันอังคาร โดยมีจุดความร้อนที่ยังคงมีอยู่ 150 จุดใน 15 เขต เขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อำเภอฮอดที่มี 34 จุด, อำเภอเชียงดาว 26 จุด และอำเภอพร้าว 23 จุด

ควันหนาทึบยังคงปกคลุมเมือง ซึ่งเป็นเมืองที่มีมลพิษสูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลกเมื่อเช้าวันอังคาร ส่งผลให้ประชาชนมีอาการระคายเคืองตาและคอ

IQAir รายงานว่าความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 ในเชียงใหม่อยู่ที่ 170 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัดความปลอดภัยที่ 34.7 µg/m³

ระดับมลพิษยังคงอยู่ในระดับอันตราย ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นต้องเปิดน้ำพุและใช้รถฉีดน้ำตามคูเมืองเก่าเพื่อเพิ่มความชื้นและลดหมอกควัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แสดงให้เห็นถึงระดับ PM2.5 ที่น่าวิตกในหลายพื้นที่เมื่อเช้าวันอังคาร ในเขตเชียงดาว ระดับ PM2.5 สูงถึง 240 µg/m³

ในขณะเดียวกัน ไฟไหม้ใกล้บ้านแม่สะเปาใต้ในอำเภอขุนยวมได้ถูกควบคุมได้แล้ว นายพรเทพ เจริญเสือบสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขต 16 กล่าว

ความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงาน ศูนย์ควบคุมไฟป่าเขต 3 และกองทัพอากาศไทย

เครื่องบิน BT-67 ของกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับการนำทางจากศูนย์ควบคุมไฟป่า ได้ทำการบินสองเที่ยวบินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยปล่อยน้ำจำนวน 6,000 ลิตรลงบนพื้นที่ที่กำลังเกิดไฟไหม้

ทีมสนับสนุนภาคพื้นดินได้ประสานงานกับนักบินผ่านวิทยุ เพื่อให้การปล่อยน้ำเป็นไปอย่างแม่นยำ เนื่องจากภูมิประเทศที่เข้าถึงยาก การดับเพลิงทางอากาศจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการต่อสู้กับไฟป่าในแม่ฮ่องสอน

นายเอกวิทย์ มีเปียน ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รวมรวมทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเครื่องบิน BT-67 จากพิษณุโลก เพื่อช่วยต่อสู้กับไฟป่าจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

แม้จะประสบความสำเร็จล่าสุด นายพรเทพยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันระยะยาวระหว่างหน่วยงานรัฐบาล องค์กรเอกชน และประชาชน เพื่อป้องกันการเผาป่าและการเผาไหม้ทางการเกษตร และส่งเสริมความพยายามในการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนเพื่อปกป้องภาคเหนือของไทยจากวิกฤตมลพิษในอนาคต

เชียงใหม่กำลังประสบปัญหามลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง เนื่องจากไฟป่าที่ลุกลามไปยังหลายเขต โดยมีจุดความร้อนมากกว่า 150 จุดถูกตรวจพบ

ไฟป่ายังคงลุกไหม้อยู่ในพื้นที่ภูเขาในจังหวัดทางเหนือเมื่อวันอังคาร โดยมีจุดความร้อนที่ยังคงมีอยู่ 150 จุดใน 15 เขต เขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อำเภอฮอดที่มี 34 จุด, อำเภอเชียงดาว 26 จุด และอำเภอพร้าว 23 จุด

ควันหนาทึบยังคงปกคลุมเมือง ซึ่งเป็นเมืองที่มีมลพิษสูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลกเมื่อเช้าวันอังคาร ส่งผลให้ประชาชนมีอาการระคายเคืองตาและคอ

IQAir รายงานว่าความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 ในเชียงใหม่อยู่ที่ 170 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัดความปลอดภัยที่ 34.7 µg/m³

ระดับมลพิษยังคงอยู่ในระดับอันตราย ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นต้องเปิดน้ำพุและใช้รถฉีดน้ำตามคูเมืองเก่าเพื่อเพิ่มความชื้นและลดหมอกควัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แสดงให้เห็นถึงระดับ PM2.5 ที่น่าวิตกในหลายพื้นที่เมื่อเช้าวันอังคาร ในเขตเชียงดาว ระดับ PM2.5 สูงถึง 240 µg/m³

ในขณะเดียวกัน ไฟไหม้ใกล้บ้านแม่สะเปาใต้ในอำเภอขุนยวมได้ถูกควบคุมได้แล้ว นายพรเทพ เจริญเสือบสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขต 16 กล่าว

ความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงาน ศูนย์ควบคุมไฟป่าเขต 3 และกองทัพอากาศไทย

เครื่องบิน BT-67 ของกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับการนำทางจากศูนย์ควบคุมไฟป่า ได้ทำการบินสองเที่ยวบินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยปล่อยน้ำจำนวน 6,000 ลิตรลงบนพื้นที่ที่กำลังเกิดไฟไหม้

ทีมสนับสนุนภาคพื้นดินได้ประสานงานกับนักบินผ่านวิทยุ เพื่อให้การปล่อยน้ำเป็นไปอย่างแม่นยำ เนื่องจากภูมิประเทศที่เข้าถึงยาก การดับเพลิงทางอากาศจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการต่อสู้กับไฟป่าในแม่ฮ่องสอน

นายเอกวิทย์ มีเปียน ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รวมรวมทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเครื่องบิน BT-67 จากพิษณุโลก เพื่อช่วยต่อสู้กับไฟป่าจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

แม้จะประสบความสำเร็จล่าสุด นายพรเทพยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันระยะยาวระหว่างหน่วยงานรัฐบาล องค์กรเอกชน และประชาชน เพื่อป้องกันการเผาป่าและการเผาไหม้ทางการเกษตร และส่งเสริมความพยายามในการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนเพื่อปกป้องภาคเหนือของไทยจากวิกฤตมลพิษในอนาคต

It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout. The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using ‘Content here, content here’, making it look like readable English. Many desktop publishing packages and web page editors now use Lorem Ipsum as their default model text, and a search for ‘lorem ipsum’ will uncover many web sites still in their infancy.

It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout. The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using ‘Content here, content here’, making it look like readable English. Many desktop publishing packages and web page editors now use Lorem Ipsum as their default model text, and a search for ‘lorem ipsum’ will uncover many web sites still in their infancy.

The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using ‘Content here, content here’, making

The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using ‘Content here, content here’, making it look like readable English. Many desktop publishing packages and web page editors now use Lorem Ipsum as their default model text, and a search for ‘lorem ipsum’ will uncover many web sites still in their infancy.

Tuan Pham Anh

RECENT POSTS

CATEGORIES

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *