อียูขู่เล็งเป้าหมายสินค้ารถยนต์และเครื่องบินสหรัฐ หากการเจรจาทางการค้าล้มเหลว
เบลเยี่ยม, บรัสเซลส์ – อียูได้ทำการขู่สหรัฐว่าจะเป้าหมายไปยังสินค้าต่างๆ เช่น รถยนต์และเครื่องบิน ที่มีมูลค่าสูงถึง 95 พันล้านยูโร (ประมาณ 107 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หากไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกับทีมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า.
การตอบโต้ของสหภาพยุโรปและการร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก
คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศว่าพวกเขาจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในข้อหาที่ทรัมป์ได้กำหนดภาษีสูงต่อกลุ่มประเทศนี้. นอกจากนี้, ทรัมป์ยังได้ประกาศภาษีแบบ ‘reciprocal’ จำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้าส่วนใหญ่จากอียูในเดือนเมษายน แต่ต่อมาได้พักระยะนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม รวมทั้งภาษีสูงกว่าที่กำหนดในหลายๆ ประเทศ.
อย่างไรก็ตาม, ทรัมป์ยังคงรักษาภาษีขั้นพื้นฐานที่ 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับการนำเข้าจากทั่วโลก รวมถึงกลุ่ม 27 ประเทศในสหภาพยุโรปด้วย. สหภาพยุโรปต้องการทำข้อตกลงกับสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบแต่ก็เตรียมการตอบโต้หากภาษีของทรัมป์มีผลอีกครั้ง.
รายการสินค้าเป้าหมายและความพยายามในการเจรจา
รายการสินค้าที่อียูได้กำหนดไว้เพื่อตอบโต้รวมถึงเครื่องบิน, รถยนต์, ผมมนุษย์, ถั่วและผลไม้, พลาสติก, เคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ผลิตในสหรัฐ. ทั้งนี้มูลค่าสูงสุดที่รวมอยู่ในรายการนั้นคือเครื่องบินและรถยนต์ มูลค่ากว่า 10.5 พันล้านยูโร และมากกว่า 12 พันล้านยูโรตามลำดับ.
สหภาพยุโรปยืนยันว่าหากทรัมป์ไม่ถอนกลับ, พวกเขาพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่รุนแรงขึ้น รวมทั้งเป้าหมายไปที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐ. ‘ทุกตัวเลือกยังคงเปิดอยู่’ ตามที่เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าว.
ในขณะที่การเจรจากำลังจะเกิดขึ้น, อียูเปิดเผยว่าพวกเขาจะ ‘เร็วๆ นี้’ เปิดตัวข้อพิพาท WTO เกี่ยวกับภาษีรถยนต์และภาษี 20 เปอร์เซ็นต์. ‘มันเป็นความเห็นที่ไม่อาจปฏิเสธของอียูว่าภาษีเหล่านี้ละเมิดกฎหมายพื้นฐานของ WTO อย่างชัดเจน’, ตามคำพูดของหน่วยงาน.