นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะหารือเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในเมียนมาและประเด็นภาษีของสหรัฐฯ กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งจะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายนนี้ โดยนายอันวาร์ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้

นายทักษิณระบุว่า การพูดคุยที่จะเกิดขึ้นจะเน้นการส่งเสริมสันติภาพในเมียนมา และบทบาทร่วมของอาเซียนในการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แต่ยืนยันว่าการหารือจะไม่ใช่การต่อรองผลประโยชน์
“เราจะพูดคุยในลักษณะที่สะท้อนความต้องการของประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ ซึ่งต้องการการพัฒนาและการสนับสนุนทางการเงินจากประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภูมิภาคของเรา” นายทักษิณกล่าว
“ผมต้องการให้เขา [ทรัมป์] เข้าใจถึงความสำคัญของอาเซียน โดยเฉพาะภูมิภาคของเรา ซึ่งมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อสหรัฐฯ ผมเชื่อว่าเราจะเจรจาในฐานะหุ้นส่วน ไม่ใช่ในลักษณะการต่อรอง”
เมื่อถูกถามถึงความคุ้นเคยกับจุดยืนของทรัมป์และบุคคลใกล้ชิด นายทักษิณยืนยันว่าเขารู้จักคนเหล่านั้นเป็นอย่างดี และเคยพบกับบุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาก่อน
เขายังแสดงความมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ในการเจรจากับสหรัฐฯ และยืนยันว่าข้อตกลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นจะไม่สร้างภาระให้กับประเทศ
นอกจากนี้ นายทักษิณยังกล่าวถึงปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก ซึ่งไหลมาจากเมียนมาเข้าสู่แม่น้ำอาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยชี้ว่าเชียงใหม่กำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ทั้งฝุ่น PM2.5 ความสะอาด และความขัดแย้งข้ามพรมแดน ซึ่งล้วนต้องการการพูดคุยและความร่วมมือ
“ไทยและเมียนมาต้องหารือกันมากขึ้น เพื่อแก้ไขผลกระทบจากยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่น PM2.5 และการปนเปื้อนสารหนู” เขากล่าว
เขาเสริมว่าได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลผลกระทบจากปัญหาน้ำที่ส่งผลต่อประชาชนในเชียงใหม่ และเมื่อเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล จะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป